ศึกษาธิการ ร่วมกับ กระทรวงแรงงาน ร่วมยกระดับการมีงานทำ

ศึกษาธิการ ร่วมกับ กระทรวงแรงงาน ร่วมยกระดับการมีงานทำ

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นประธานในการเปิดงาน “ศึกษาธิการ-แรงงาน ร่วมใจสู่ไทยมีงานทำ” เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการมีงานทำให้แก่นักเรียน นักศึกษา และแรงงานในทุกระดับ ระหว่าง ศธ. ร่วมกับ กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี

โดยมีนายพิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัด ศธ. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงศ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ผู้บริหารระดับสูง สถานประกอบการและประชาชนเข้าร่วมกว่า 3,000 คน

น.ส.ตรีนุช ได้กล่าวว่า ในการจัดการศึกษานั้น สถานศึกษาต้องดำเนินการพัฒนาผู้เรียนในทุกระดับการศึกษา ให้มีวิธีคิดและทักษะที่เป็นสากล สอดคล้องกับศตวรรษที่ 21 ที่มุ่งเน้นการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย โดยยึดความสามารถของผู้เรียนเป็นหลัก และพัฒนาผู้เรียนให้เกิดสมรรถนะที่ต้องการ สอดคล้องกับมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ การจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวัยให้ได้รับการศึกษาตามความต้องการอย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน รวมทั้งการพัฒนาทักษะทางอาชีพของผู้เรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพและรายได้ที่เหมาะสม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

“จากความร่วมมือ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 สู่การขับเคลื่อนภายใต้การบรูณาการการทำงานร่วมกันระหว่าง ศธ.และกระทรวงแรงงาน เพื่อการส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำ สร้างแรงงานที่มีศักยภาพ มีงานทำ มีรายได้ มีหลักประกัน มีความมั่นคงเป็นที่พึ่งของตนเองและผู้อื่น ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจที่สามารถนำมาเสริมศักยภาพในการขับเคลื่อนการศึกษา และร่วมพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะ ในการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการพัฒนาทักษะอาชีพของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพของนักเรียน นักศึกษา รวมถึงแรงงานในทุกระดับให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะฝีมือ ให้เป็นไปตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งด้านปริมาณ และคุณภาพ รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคต ตลอดจนพัฒนาสมรรถนะในการแข่งขันของประเทศ ให้ผู้จบการศึกษาในทุกระดับ และแรงงาน มีอาชีพ สู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี” น.ส.ตรีนุชกล่าว

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง

น.ส.ตรีนุชกล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปี ในการดำเนินงานร่วมกันส่งผลทำให้เกิดการขับเคลื่อนที่เกิดประโยชน์ต่อนักเรียนนักศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับการบูรณาการกับทุกภาคส่วนของทั้งสองกระทรวง ตามกรอบการดำเนินงาน 4 ด้าน ดังนี้

1.ด้านระบบฐานข้อมูล Big Data และการส่งเสริมการมีงานทำ การจัดทำแพลตฟอร์มกลาง “ไทยมีงานทำ” ในการบริหารจัดการส่งเสริมการศึกษาและการมีงานทำแก่นักเรียน นักศึกษา และแรงงานทุกระดับ ให้ทุกภาคส่วนทราบอย่างทั่วถึง โดยมีผู้สำเร็จการศึกษาจากสถานศึกษาในสังกัด สอศ. ได้ประโยชน์จากการเข้าถึงแหล่งงานจากผู้ประกอบการโดยตรง จำนวน 420,494 คน

2.ด้านการพัฒนาหลักสูตรและการพัฒนาบุคลากรและครูผู้สอน เป็นการพัฒนาหลักสูตร Up-Skill, Re-Skill และหลักสูตร e-Learning ที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานฝีมือแรงงาน และกฎหมายแรงงานที่ควรรู้ โดยมีการพัฒนาหลักสูตรยานยนต์ไฟฟ้า EV เชื่อมโยงกับมาตรฐานฝีมือแรงงาน 7 สาขาอาชีพ ในสถานศึกษา จำนวน 52 แห่ง มีหลักสูตรได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ จำนวน 42 สาขาวิชา หลักสูตรที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานฝีมือแรงงาน 273 สาขาอาชีพ จำนวน 933 รายวิชา หลักสูตรระยะสั้นที่เชื่อมโยงกับกรอบคุณวุฒิวิชาชีพ จำนวน 5 สาขาอาชีพ ได้แก่ สาขาอาชีพช่างยนต์, อาชีพช่างเชื่อมโลหะ, อาชีพผู้ประกอบการอาหารและโภชนาการ, อาชีพช่างเสริมสวย และอาชีพช่างไฟฟ้า

3.ด้านการทดสอบและการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและการประเมินการจัดตั้งศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถ เป็นการยกระดับสมรรถนะนักเรียน นักศึกษา และแรงงานในทุกระดับด้วยระบบการรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงาน โดยมีศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานในสถานศึกษาสังกัด ศธ. เพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น 264 แห่ง มีผู้อบรมทดสอบในปี พ.ศ.2565 จำนวน 266 คน และในปี 2566 จำนวน 251 คน โดยศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถ ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดตั้งศูนย์ในสถานศึกษาเป็นระยะเวลา 3 ปี

4.ด้านการส่งเสริมและพัฒนางานในการจัดการอาชีวศึกษาด้านทวิภาคี และการแข่งขันฝีมือแรงงาน เป็นการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีคุณภาพสูง เพื่อยกระดับกำลังคนอาชีวศึกษาสมรรถนะสูง จัดฝึกอบรมครูฝึกในสถานประกอบการ จำนวน 1,966 คน

การพัฒนาระบบในการยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ผ่านระบบ PRB e-service เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการที่เข้าร่วมการจัดการอาชีวศึกษาทวิภาคี การดำเนินงานร่วมกับสำนักงานประกันสังคม ปรับปรุงแนวทางการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีให้เข้าสามารถถึงได้ง่ายขึ้น และพัฒนานักเรียน นักศึกษาให้มีสมรรถนะสูงตามมาตรฐานสากล World Skills

ด้านนายสุชาติกล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง ศธ.และกระทรวงแรงงาน เพื่อต้องการเชื่อมโยงข้อมูลสถานประกอบการกับนักศึกษาที่จบใหม่ ให้จบแล้วสามารถมีงานทำ มีรายได้ที่สูงขึ้น โดยกระทรวงแรงงานจะวิเคราะห์และประเมินว่าตลาดแรงงานต้องการแรงงานอะไรบ้าง และเอาข้อมูลดังกล่าวมาเชื่อมกับ ศธ.​เพื่อให้ ศธ. พัฒนาคนให้ตอบโจทย์ความต้องการของแรงงาน ซึ่งตนเชื่อว่าผู้ที่เรียนจบอาชีวะ มีงานทำ ไม่มีตกงาน และมีรายได้ที่สูง เพราะการจ่ายค่าตอบแทนที่สถานประกอบการให้ในปัจจุบัน สถานประกอบการจะจ่ายค่าตอบแทนตามระดับทักษะฝีมือ ไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนจากวุฒิที่จบการศึกษา

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ twodollarpistol.com

แทงบอล

Releated