รัฐบาลและพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ตกลงกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่จะพิจารณาทบทวนคดีการสะกดรอยตามทั้งหมดที่รายงานต่อตำรวจ ท่ามกลางความไม่พอใจของสาธารณชนต่อกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าสะกดรอยตามและฆาตกรรมที่สถานีรถไฟใต้ดินโซลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกระทรวงยุติธรรมและตำรวจรายงานแผนรับมือการสะกดรอยตามอาชญากรรมในการประชุมฉุกเฉินที่จัดที่รัฐสภา ตัวแทนพรรคพีพีพี ลี มันฮี กล่าว “เราได้พูดคุยถึงวิธีป้องกันอาชญากรรมที่คล้ายกับโศกนาฏกรรมล่าสุดที่เกิดขึ้นที่สถานีซินดังที่เกี่ยวข้องกับการสะกดรอยตาม” ลีกล่าวกับผู้สื่อข่าว พร้อมเสริมว่ารัฐบาลและพรรคพลังประชาชนเห็นชอบที่จะตรวจสอบคดีที่เกี่ยวข้องกับการสะกดรอยตามรายงานต่อตำรวจมากกว่า 2,000 คดี

เมื่อวันที่ 14 กันยายน Jeon Joo-hwan ลูกจ้างวัย 31 ปีของ Seoul Metro ถูกจับกุมที่สถานี Sindang บนสาย 2 หลังจากแทงเพื่อนร่วมงานหญิงในวัย 20 ของเธอเสียชีวิตในห้องผู้หญิงของสถานีรถไฟใต้ดิน

คดีนี้ทำให้คนทั้งประเทศตกตะลึง

เมื่อมีการเปิดเผยว่าการสังหารเกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนที่ศาลจะตัดสินลงโทษเขาในข้อหาสะกดรอยตามเธอ ทั้งสองรู้จักกันตั้งแต่เข้าสู่โซลเมโทรในปีเดียวกัน

ลีกล่าวว่าอัยการและตำรวจได้จัดตั้งองค์กรที่ปรึกษาเพื่อตอบสนองต่อการสะกดรอยตามอาชญากรรมได้ดีขึ้น และได้มีการหารือเพื่อหามาตรการสนับสนุนและคุ้มครองที่ครอบคลุมและเข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับการสะกดรอยตามเหยื่ออาชญากรรม

พรรคพลังประชาชนยังตัดสินใจที่จะผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายต่อต้านการสะกดรอยตาม เพื่อเพิ่มการคุ้มครองเหยื่อที่ถูกสะกดรอยตามตามกฎหมาย และสร้างระบบการตอบสนองที่รวดเร็วยิ่งขึ้น กฎหมายซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เป็นกฎหมายฉบับแรกของประเทศเกาหลีที่กำหนดเป้าหมายเฉพาะการสะกดรอยตาม ภายใต้กฎหมาย สตอล์กเกอร์อาจถูกจำคุกสูงสุดสามปี

อย่างไรก็ตาม กฎหมายมีข้อจำกัด เนื่องจากไม่สามารถใช้กับการสะกดรอยตามขั้นสูงได้ และกำหนดว่าอาชญากรรมไม่สามารถลงโทษตามความประสงค์ของเหยื่อได้ เจ้าหน้าที่ PPP บอกกับสำนักข่าว Yonhap เกี่ยวกับเงื่อนไขของการไม่เปิดเผยตัวตนหลังจากเข้าร่วมการประชุม

ตัวแทนพรรคพลังประชาชน Jun Joo-hyae ยังชี้ให้เห็นว่าศาลไม่มีแนวทางการพิจารณาคดีสำหรับการสะกดรอยตามอาชญากรรม ซึ่งเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายโดยเร็ว

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ twodollarpistol.com